สิงห์ เอสเตท ผนึก ฮ่องกง แลนด์ ปั๊มยอดขาย ดิ เอส สุขุมวิท 36 หลังมียอดจองแล้ว 60% ล่าสุดรอคิวโรด โชว์ดึงนักลงทุนฮ่องกง พร้อมเปิด เซลส์ ออฟฟิศใหม่ ชั้น 14 สิงห์ คอมเพล็กซ์ เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโครงการให้เสร็จพร้อมโอนไตรมาส 3 ปีหน้า
นายสิริเกียรติ วาทะพุกกณะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด สายพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “ดิ เอส สุขุมวิท 36” ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง สิงห์ กับ ฮ่องกง แลนด์ ว่า ล่าสุดโครงการมียอดขายแล้วกว่า 60% ขณะที่การก่อสร้างมีความหน้าแล้วกว่า 40% และเพื่อให้การก่อสร้างดำเนินการให้แล้วเสร็จและสามารถโอนได้ตามกำหนดในไตรมาส 3/2563 บริษัทจึงย้ายสำนักงานขายและห้องตัวอย่างมาจัดไว้ที่ชั้น 14 โครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ เมื่อต้นเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการปรับราคาขายขึ้นมาแต่อย่างใด
“ทั้งสิงห์ เอสเตทฯและฮ่องกง แลนด์ พยายามที่จะดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาซื้อโครงการ และในเร็วๆ นี้ทางฮ่องกง แลนด์ มีแผนที่จะนำโครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 ไปโรดโชว์ที่ฮ่องกงอีก ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ที่ฮ่องกงให้สงบเสียก่อน เพราะในขณะที่สถานการณ์ที่ฮ่องกงยังไม่สงบ แต่นักลงทุนชาวฮ่องกง ก็ยังมีความสนใจที่จะลงทุนอสังหาฯนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะเข้าไปทำตลาด” นายสิริเกียรติ กล่าว
สำหรับ โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ บริเวณหัวมุมถนนซอยสุขุมวิท 36 ติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น 1 อาคาร ขนาด 38.50-252 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 12.6-93 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 330,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 338 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท ออกแบบโดยผู้ออกแบบชั้นนำระดับโลก อย่าง SOM (Skidmore, Owings & Merrill LLP), DWP (Design Worldwide Partnership) และ SHMA ภายใต้คอนเซปต์ “A Harmony of Contrast” หรือ “สมดุลแห่งความต่าง” โดยหลอมรวมความแตกต่างระหว่างสถาปัตยกรรมแบบไทยกับการออกแบบที่เป็นสากลเข้าไว้ด้วยกัน



นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยี Home Automation และวัสดุภายในห้องพักระดับพรีเมียม อาทิ เช่น ผนังหินอ่อนนำเข้าจากต่างประเทศ พื้นไม้เอนจิเนียร์ลายแฮริ่งโบน ผ้าม่านและวอลล์เปเปอร์ออกแบบลายพิเศษเฉพาะโครงการโดย Jim Thomson ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก Kuppersbusch เป็นต้น อีกทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็ม 20 รายการ อาทิ ที่จอดรถทั้งระบบ Automated Parking และระบบจอดรถแบบปกติรวม 100%, ห้องชมภาพยนต์ส่วนตัว, บ่อออนเซ็นแบบญี่ปุ่นแยกชาย-หญิง, สระว่ายน้ำอินฟินีตี้, ห้องฟิตเนส, เวอร์ชวลไบค์, กอล์ฟซิมูเลเตอร์, ห้องสปา, ห้องอบไอน้ำ เป็นต้น


ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมที่ผ่านมาของ สิงห์ เอสเตท ได้แก่ ดิ เอส อโศก และ ดิเอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ทั้ง 2 โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่วน ดิ เอส สุขุมวิท 36 และ อีส สุขุมวิท 43 ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ทั้ง 4 โครงการของ สิงห์ เอสเตท ต่างได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มลูกค้าคนไทย รวมถึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติทั้งนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนรายย่อย โดยโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมดในปัจจุบันของสิงห์ เอสเตท มีมูลค่ารวมประมาณ 17,724 ล้านบาท และมียอดขายรวมแล้วกว่า 72%

นอกจากนี้ ทางสิงห์ เอสเตท เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีในย่านรางน้ำ ภายใต้แบรนด์ใหม่ที่ยังเน้นการคงคุณภาพวัสดุและคุณภาพการก่อสร้างเช่นเดียวกับแบรนด์ THE ESSE จำนวน 1 อาคาร 411 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 4,100 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในย่านรางน้ำ ติดกับสวนสันติภาพ และห่างจากบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยด้วยระยะเดินเพียง 5 นาที และมีกำหนดการเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า
โครงการดังกล่าว(ใช้ชื่อแบรนด์ในเบื้องต้นว่า เอสโทร:ESTRO) เป็นคอนโดมิเนียมระดับ ไฮเอนด์ ย่านซอยรางน้ำ ติดสวนสาธารณะสันติภาพและตรงข้ามคิงเพาเวอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่รองจาก “ดิเอส” บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ เป็นคอนโดฯสูง 35 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 31.5-111.75 ตารางเมตร ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 200,000 บาทต้นๆ/ตารางเมตร หรือตั้งแต่ 5.99 ล้านบาทขึ้นไป เดิมมีแผนจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 3/2562 แต่ด้วยสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวยจึงเลื่อนไปเปิดตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563