fbpx
Lake Legend Bangna 1

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ลดหนี้ เร่งปั๊มรายได้ รับอสังหาฯฟื้นตัว

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เดินหน้าลดหนี้เพิ่มความแกร่ง พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจ เตรียมเปิด 15 โครงหารใหม่ มูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้าน พร้อมรีเฟรชแบรนด์บ้านเดี่ยว ลุย Metaverse รับตลาดอสังหาฯฟื้นตัว

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ แกรนด์ แอสเสท เปิดแผนธุรกิจในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ตั้งเป้าหมายเสริมสร้างองค์กรแข็งแกร่งขึ้น แม้ในปี 2564 ผลการดำเนินงานจะยังขาดทุนอยู่ 197 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นจากปี 2563 ที่ขาดทุนสูงถึง 1,757 ล้านบาท

“ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายการดำเนินงานใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.สร้างฐานะการเงินให้แข็งแกร่ง และ 2.ขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโต โดยมั่นใจว่าในปีนี้ธุรกิจของกลุ่มบริษัททั้งอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตขึ้น” นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าว

เร่งขายทรัพย์สิน ลดภาระหนี้เพิ่มความแกร่ง

ในส่วนของการจัดการโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่ง บริษัทมีเป้าหมายที่จะลดภาระหนี้ลงอีก หลังจากที่สามารถลดระดับหนี้สินสุทธิต่อทุนมาอย่างต่อเนื่องจาก 2.1 เท่า ในปี 2563 เหลือ 1.7 เท่า ในปี 2564 และตั้งเป้าให้อยู่ที่ 1.2 เท่า ในปีนี้

ทั้งนี้บริษัทได้มีการเจรจาขายที่ดิน 2 แปลง บริเวณถนนรามอินทราและรัชดาภิเษก มูลค่าแปลงละ 2,000 ล้านบาท โดยมั่นใจว่า จะสามารถจะเจรจาได้จบภายในครึ่งปีหลัง เพราะเป็นที่ดินที่ติดรถไฟฟ้าทั้ง 2 แปลง และราคาที่เสนอขายก็ไม่ได้แพงมาก

ขณะเดียวกันจะนำโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุน มูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท รวมแล้วจะมีเงินประมาณ 8,500 ล้านบาท เพื่อนำมาลดภาระหนี้ให้ได้ตามเป้าหมาย

ลุย 15 โครงการใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 2.83 หมื่นล.

ขณะที่แผนการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตขึ้นรองรับกับการเริ่มฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 26,210 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 28,300 ล้านบาท

แบ่งเป็น รายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 12,000 ล้านบาท แกรนด์ แอสเสท 2,800 ล้านบาท รายได้จากการขายที่ดินและสิทธิการเช่า ขายการลงทุนในโรงแรมและจัดตั้งกองทรัสต์ 8,500 ล้านบาท และรายได้จากโครงการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5,000 ล้านบาท

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทและบริษัทในเครือได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของคอนโดมิเนียมและธุรกิจโรงแรม แต่บ้านเดี่ยวยังคงไปได้ดีพอสมควร รายได้ของปีนี้จะเติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีกลยุทธ์สำคัญคือการเติบโตของรายได้จากการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับพันธมิตรจากต่างประเทศทั้ง 3 ราย ได้แก่ ฮ่องกงแลนด์,  ซูมิโตโม ฟอร์เรสทรี และ เซกิซุย เคมิคอล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะทำรายได้รวมถึง 5,000 ล้านบาท และยังมีการร่วมทุนในธุรกิจถุงมือยางของแกรนด์ แอสเสท  ที่จะสร้างรายได้อีก 2,152 ล้านบาท บวกกับการขายที่ดินและจัดตั้งกองทรัสต์ จะทำให้กลุ่มบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น” นายศานิตกล่าว

นอกจากนี้ นายศานิต ยังกล่าวถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ว่า จะขึ้นอยู่กับ 2 เรื่อง ก็คือ การบริการจัดการเรื่องโควิดให้ชัดเจนขึ้น พร้อมที่จะเปิดประเทศได้ พร้อมที่จะอยู่กับโควิดให้ได้ เรื่องที่ 2 คือการจัดการด้านเศรษฐกิจซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นนโยบายของรัฐบาลที่ชัดเจน โดยการจัดการด้านเศรษฐกิจจะเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนในการฟื้นตัวให้ได้ ทั้งในเรื่องมาตรการการเงินที่จะนำมาใช้สำหรับช่วยเหลือผู้ประกอบการ และมาตรการที่จะทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวให้ได้

ในส่วนแผนธุรกิจของพร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับ 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 26,210 ล้านบาท ที่จะเปิดตัวในปีนี้  แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 12,845 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์โฮม 1,930 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 11,435 ล้านบาท โดยได้ตั้งการขายไว้ที่ 18,000 ล้านบาท จากโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ 10,500 ล้านบาท คอนโดมิเนียมทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่น 2,500 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 5,000 ล้านบาท

ตลาดบ้านลักชัวรี่ขายดี-สร้างไม่ทัน

“ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนต่อเนื่องจากปีที่แล้วซึ่งเป็นปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และในไตรมาส 3-4 ก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เราเริ่มเห็นคนที่สนใจเข้ามาดูบ้านมากขึ้น ยอดขายและยอดโอนที่เพิ่มขึ้นตามลำดับจากไตรมาส 3-4 ปี 2564 จนมาถึงปัจจุบัน โดยมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เอื้อต่อการฟื้นตัว

ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์โควิดที่คาดว่าจะจบในอีกไม่นานนับจากนี้ เพราะเรามีอัตราการฉีดวัคซีนที่ดีมาก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มส่งผล รวมถึงการเปิดรถไฟฟ้าสายใหม่อีก 2 สายที่จะช่วยเพิ่มความต้องการซื้อในตลาด อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบคือ อัตราดอกเบี้นที่จะขยับขึ้น เช่นเดียวกับราคาวัสดุก่อสร้าง หนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง ทำให้ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ กำลังซื้อของคนยังลดลงจากรายได้ที่ลดลง และกำลังซื้อของต่างชาติยังไม่กลับคืนมา

สำหรับในปีนี้จะเป็นอีกปีของบ้านเดี่ยว เพราะจุดอ่อนของบ้านเดี่ยวที่เคยมีหายไปจากโควิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่อยู่ไกลออกไป ทำให้จุดแข็งมีความชัดเจนขึ้น บ้านเดี่ยวจึงยังขายดีอยู่ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวในกลุ่มลักชัวรี่ที่แล้วขายดีเกินคาดจนสร้างไม่ทัน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีสัดส่วนยอดขายถึง 33% ถือว่าสูงมากจากปีที่ผ่านมา 20-25%

ในปีนี้จะเป็นอีกปีที่บ้านระดับลักชัวรี่จะยังขายดีมีสัดส่วนเพิ่มเป็นเกือบๆ 40% โดยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น new rich มีจำนวนที่มากขึ้น ขณะที่ปีนี้จะยังไม่ใช่ปีของคอนโด เพราะต่างชาติซึ่งมีสัดส่วนถึง 40% จะยังไม่กลับมา ตลาดคอนโดจึงยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่” นายวงศกรณ์ กล่าว

รีเฟรชแบรนด์บ้านเดี่ยว ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังรีเฟรชแบรนด์บ้านเดี่ยว และพัฒนาโครงการให้รับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ผ่านแนวคิด “PERFECT” ใน 7 ด้าน ได้แก่

P–Partnership ร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาสินค้าให้โดดเด่นและแตกต่างในตลาดที่อยู่อาศัย

E–Environment ตอกย้ำการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งปีนี้จะร่วมมือกับผู้ออกแบบสวนสวยติดอันดับโลก สร้างมิติใหม่ของพื้นที่สีเขียวในบ้านและในโครงการ

R–Refinement การปรับเปลี่ยนภายในบ้านทุกแบรนด์ ให้มีพื้นที่และฟังก์ชั่นที่รองรับไลฟ์สไตล์ของทุกเจน

F–Facility เดินหน้าสร้างคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากกว่า

E–Energy ตอบรับเทรนด์ด้านพลังงานด้วยการติดตั้ง EV Charger ในบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม รวมทั้ง Solar Rooftop ที่คลับเฮ้าส์

C–Community การสร้างชุมชนที่น่าอยู่ มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับสมาชิกโครงการ มี Living Solutions ใหม่ พร้อมความร่วมมือกับ AIS ให้สมาชิกโครงการสามารถโอนคะแนนสะสมไปเป็น เอไอเอส พอยท์ เพื่อใช้สิทธิ์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น

T–Technology การนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยมีความร่วมมือเพิ่มเติมกับ AIS กับมาตรฐาน Fiber to the home เต็มรูปแบบด้วยไฟเบอร์ออพติคเชื่อมต่อไปยังทุกพื้นที่หลักของบ้าน และ AIS SuperWifi ความเร็วสูงสุด 2 Gbps ในคลับเฮ้าส์

เข้าสู่ Metaverse พัฒนาโครงการบนโลกเสมือน

ล่าสุด พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้ร่วมกับ แบรนด์เวิร์ส ในการรุกเข้าสู่โลกของ  Metaverse เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในการเยี่ยมชมโครงการในโลกเสมือนจริง รวมทั้งสนับสนุนและเป็นกำลังหลักในการพัฒนาธุรกิจบนที่ดินที่ได้รับการจัดสรรบนโลกเสมือนจริง

นายวงศกรณ์ กล่าวว่า Metaverse เป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่บริษัทเห็นถึงแนวทางการเข้าสู่โลกเสมือนจริงนี้ได้ใน 2 แนวทาง ประการแรกคือ การที่เราจะนำโครงการเข้าสู่โลกเสมือน เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การเยี่ยมชมโครงการของบริษัทได้ในโลก Metaverse โดยไม่ต้องเดินทางไปในสถานที่จริง และการพัฒนาธุรกิจบนโลก Metaverse กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดโลก เป็นโอกาสใหม่ที่น่าจับตามอง บริษัทยังจะมีความร่วมมือกับ แบรนด์เวิร์ส ในการจับจองพื้นที่บน Metaverse และร่วมกันพัฒนาอสังหาฯบนโลกเสมือน

Metaverse เป็นเทรนด์ที่มาเร็วและมาแรงมากกว่าที่คาดเอาไว้ เหมือนตอนที่มีโซเชียลมีเดียใหม่ๆ ใครจะคิดว่าจะมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจและสังคมได้มากขนาดนี้  Metaverse ก็เช่นเดียวกันอีกไม่นานจะมีอิทธิพลต่อโลกธุรกิจมากขึ้น

บริษัทก็มีความสนใจในด้านนี้ ได้มีการศึกษาและได้ทำโครงการนำร่องไปแล้วบ้าง เพื่อใช้ประโยชน์จาก  Metaverseในการสร้างประสบการณ์กับลูกค้าที่ปัจจุบันมีเวลาและระยะทางเป็นข้อจำกัด  Metaverse จะทำให้ข้อจำกัดตรงนี้หายไป” นายวงศกรณ์กล่าว

หวังท่องเที่ยวฟื้น แกรนด์ แอสเสท โตก้าวกระโดด

สุดท้ายคือ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งนายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เปิดเผยว่า ในปีนี้ แกรนด์ แอสเสท จะมีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการเปิดประเทศ ส่วนรายได้ปีนี้ จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าไว้ 5,500 ล้านบาท

แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรม 1,800 ล้านบาท และจากโครงการร่วมทุน 2,700 ล้านบาท รายได้หลักจะมาจาก “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” โครงการร่วมทุนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 ของปีนี้  ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่แล้ว 2,017 ล้านบาท 

สำหรับเป้าขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วางไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 400 ล้านบาท วิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนอีก 1,000 ล้านบาท

ธุรกิจโรงแรม วางเป้ารายได้ที่ 1,800 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง คาดโรงแรมในกลุ่มบริษัทจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ระดับสูงกว่า 50% โดยตลาดชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศ ยังคงมีความสำคัญอย่างมาก ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นจากมาตรการเปิดประเทศ เนื่องจากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยเริ่มมีมาตรการผ่อนปรนเรื่องการเดินทางมากขึ้น

ส่วน ธุรกิจผลิตถุงมือยาง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 โดยติดตั้งเครื่องจักร 1 และ 2 พร้อมเดินเครื่องและบันทึกรายได้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ 2,152 ล้านบาท บริษัทยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และกำลังทยอยติดตั้งสายการผลิตอื่นๆ ต่อไปให้ครบ ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 16 สายการผลิตภายในปีนี้

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ในปี 2565 พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จะสามารถ turnaround กลับมาสร้างผลกำไรได้อีกครั้ง